Page 29 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่

ในระหว่างนี้ พระสงฆ์ไทยได้มาช่วยงานในมิสซังภาคอีสาน คือคุณพ่อ ซามูแอล

สมุห์ เกษมพานิช พระสงฆ์ไทยสังกัดมิสซังกรุงเทพฯ เป็นองค์หนึ่งที่สมัครมาช่วยงาน
่
่
ั
ั
ั
้
้
ิ
ี
่
็
ี
ื
ุ
่
็
กไดเปนเจาอาวาสวดทาแร ตงแตป 1944 ในทสด เดอนพฤศจกายน 1948 (2491) รฐบาล
้
ของนายควง อภัยวงศ์ ได้ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา
ค.ศ.1947 คุณพ่อเกลาดิอุส บาเย ได้รับแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชมิสซังลาว มีพิธีอภิเษก
ในวันที่ 3 ตุลาคม 1947 (2490)
ผลจากการเบียดเบียนศาสนาในประเทศไทยครั้งนั้น พระสงฆ์ชาวฝรั่งเศส
ถูกขับไล่ออกจากประเทศไทย แต่มิสซังลาวที่พวกท่านดูแลอยู่นั้นมีอาณาเขตกินพื้นที่
ของสองประเทศ ทำาให้มีสำานักพระสังฆราช 2 แห่ง คือ ที่ท่าแขก ประเทศลาว และ
ที่ท่าแร่ ประเทศไทย ด้วยเหตุนี้ภายหลังที่รัฐบาลไทยให้เสรีภาพในการนับถือศาสนา
อีกครั้ง พระคุณเจ้าบาเยจึงต้องแบ่งเวลาอยู่ประจำาสำานักทั้งสองสลับกันแห่งละเดือน
ค.ศ.1950 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 1950 (2493) สมณกระทรวงเผยแผ่ความเชื่อของ
พระศาสนจักร กรุงโรม ออกกฤษฎีกาแยกมิสซังลาว ตามเขตแดนของประเทศ โดยให้
พื้นที่ในส่วนของประเทศลาวเป็นอีกมิสซังหนึ่ง และพื้นที่ทางภาคอีสานของไทยก็เป็นอีก
มิสซังหนึ่ง ซึ่งในส่วนทางภาคอีสานของไทยก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “มิสซังท่าแร่” ท่าแร่

จึงได้เป็นศูนย์กลางของมิสซังอย่างเป็นทางการนับแต่เวลานั้น ซึ่งได้เป็นที่ตั้งของสำานัก
มิสซังก่อนหน้านั้นแล้ว โดยมีพระคุณเจ้าเกลาดิอุส บาเย เป็นพระสังฆราช ต่อมาท่าน

ย้ายไปเป็นพระสังฆราชของมิสซังอุบลฯ ภายหลังจากมีการแบ่งแยกมิสซัง คือเทียบเท่า
มิสซังอุดรธานี และมิสซังอุบลราชธานี ออกจากมิสซังท่าแร่ ในวันที่ 7 พฤษภาคม

1953 (2496) พระสังฆราชมิแชลมงคล ประคองจิต เป็นประมุขมิสซังท่าแร่
ค.ศ.1959 คุณพ่อเกี้ยน เสมอพิทักษ์ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระสังฆราชมิสซังท่าแร่ ในวันที่ 12

กุมภาพันธ์ 1959 (2502) มีพิธีอภิเษก วันที่ 1 กรกฎาคม 1959 นับเป็นพระสังฆราช
พื้นเมืององค์แรกของภาคอีสาน (พระสังฆราชมิแชล มงคล ประคองจิต มรณภาพเมื่อ

วันที่ 18 มกราคม 1958)
ค.ศ.1965 หลังจากการได้รับยกฐานะจากกรุงโรม ให้เป็น “สังฆมณฑล” ในวันที่ 25 มีนาคม

1960 ในวัน 18 ธันวาคม 1965 (2508) สังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ก็ได้รับการสถาปนา
พระฐานานุกรมเป็น “อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง” และพระสังฆราชมีคาแอล เกี้ยน

เสมอพิทักษ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอัครสังฆราช พระคุณเจ้าเห็นว่าวัดเก่าคับแคบ
และทรุดโทรมมาก จึงได้สร้างวัดใหม่โดยมีพิธีเสกและวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 16 เมษายน

1968 (2511) เสร็จสมบูรณ์และมีพิธีเสกเปิดวัดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 1971 (2514)
วัดหลังนี้มีลักษณะรูปทรงเป็นเรือ โดยหันหัวเรือไปทางทิศเหนือ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็น

ภาคที่ 1 ประวัติศาสตร์ชุมชนแห่งความเชื่อ 27