Page 26 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่
P. 26

คุณพ่อมีอำานาจมาก มีชื่อเสียงทั่วไปในจังหวัดสกลนคร เพื่อนพระสงฆ์ก็นับถือท่านมาก

                           ในการปกครองบ้านเมือง พวกกำานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ เคยมาปรึกษากับคุณพ่อ
                           ขอความคิดเห็นและขอความช่วยเหลือเสมอ” (พระคุณเจ้าเกลาดิอุส บาเย)

            ค.ศ.1899              พระสันตะปาปา เลโอที่ 13 ได้สถาปนา “มิสซังลาว” ในวันที่ 24 พฤษภาคม
                           1899 (2442) เป็นมิสซังใหม่ที่แยกออกจากมิสซังไทย มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่

                           ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยทั้งหมด(ภาคอีสาน) รวมกับประเทศลาวด้วย
                           แต่ไม่รวมแขวงซำาเหนือ  และแขวงไทนินตะวันออกกับแขวงอัตตาปือทางภาคใต้

                           พระคุณเจ้ายอแซฟ มารี กืออ๊าส เป็นพระสังฆราชองค์แรกปกครองมิสซังลาว สำานัก
                           พระสังฆราชตั้งอยู่ที่บ้านหนองแสง ห่างจากตัวเมืองนครพนมไปทางเหนือราว 3 กิโลเมตร

                                  เมื่อครั้งกลุ่มธรรมทูตได้เข้ามาแพร่ธรรมในเขตภาคอีสานของประเทศไทย
                           ก็ได้เลือกบุ่งกระแทว(เมืองอุบลฯ) เป็นศูนย์แพร่ธรรมแห่งแรกของภาคอีสาน ในปี

                           1881 (2424) ต่อมาก็เปลี่ยนมาเป็น คำาเกิ้ม ในปี 1885 (2428) เหตุผลเพราะมีภูมิศาสตร์
                           อยู่ระหว่างบุ่งกระแทวกับท่าแร่ ซึ่งทั้งสามแห่งนี้เป็นที่ที่มีพระสงฆ์ประจำาอยู่ และใน

                           ปีต่อมา ก็ได้เลือกหนองแสงเป็นที่ตั้งสำานักของอุปสังฆราชผู้ปกครองมิสซัง เหตุผล
                           เพราะมีความสะดวกในการติดต่อมากกว่าคำาเกิ้ม หนองแสงจึงกลายเป็นศูนย์ที่สาม

                           ของมิสซัง และเป็นที่ตั้งของสำานักพระสังฆราชประมุขผู้ปกครองมิสซังลาวตั้งแต่ปี
                           1899 (2442) จนถึงปี 1940 (2483) ซึ่งเป็นปีที่มีการเบียดเบียนศาสนาในประเทศไทย

            ค.ศ.1901              เดิมทีเดียวหมู่บ้านยังไม่ใช้ชื่อว่าท่าแร่ และไม่ปรากฏชื่อท่าแร่ในการบันทึก
                           ต่างๆ ในบันทึกเหตุการณ์และหนังสือเข้า คุณพ่อยอแซฟ กอมบูริเออ  ใช้ “วัดมหาพรหม

                           มีคาแอล แขวงเมืองสกลนคร” แต่หนังสือ “หนังสือสำาเนาหนังสือออกและคดีความ”
                           เลขที่ 10 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 1901(2444) คุณพ่อยอแซฟ กอมบูริเออ เขียนขึ้นต้น

                           หนังสือว่า “สำานักท่านบาทหลวง บ้านท่าแร่” คงเรียกชื่อตามสภาพสถานที่ตั้งหมู่บ้าน
                           เนื่องจากบริเวณทั่วไปที่ตั้งหมู่บ้านเป็นหินลูกรัง ชาวบ้านเรียกว่า “หินแฮ่” และท่าน้ำา

                           ที่เรือแพมาจอดในวันที่อพยพมานั้นเป็นท่าหินแฮ่ จึงเรียกท่าแฮ่ ต่อมาก็เรียกเป็นชื่อบ้าน
                           คือ “บ้านท่าแฮ่” แล้วเปลี่ยนมาเป็น “ท่าแร่” ตามที่ปรากฏจนถึงปัจจุบัน

            ค.ศ.1906              วัดหลังที่สองสร้างเสร็จ หลังจากที่ได้ใช้เวลาสร้างมาหลายปี มีพิธีเสกวัดใหม่
                           ในโอกาสฉลองวัดในเดือน พฤษภาคม 1906 (2449) โดยคุณพ่อโปรดม  อุปสังฆราช

                           เป็นประธาน
            ค.ศ.1907              สมเด็จกรมพระยาดำารงราชานุภาพ ตำาแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย

                           ในสมัยนั้น ได้เสด็จตรวจเยี่ยมมณฑลอีสานเป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างเส้นทางเสด็จไป
                           เมืองสกลนครผ่านท่าแร่ จึงได้แวะเยี่ยมมิชชันนารีที่บ้านพักพระสงฆ์ ได้ทรงถ่ายภาพ

                           วัดหลังใหม่เมื่อวันที่ 14 มกราคม 1907 (2450) วัดหลังนี้มีรูปทรงสวยงามมาก หลังคา



            24                                                ภาคที่ 1 ประวัติศาสตร์ชุมชนแห่งความเชื่อ
   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31