Page 87 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่
P. 87
ฟังพระวาจา จึงไม่ควรคิดว่าเราจะเข้าถึงและนำามาเจริญชีวิตได้ด้วยการอ่านพระคัมภีร์แต่อย่างเดียวเท่านั้น
เพราะพระวาจาของพระเจ้าปรากฏแก่เราในชีวิตพระศาสนจักรนั้นเป็นไปในหลายช่องทาง ตามที่ได้ถูก
ประกาศและถูกนำามาเจริญชีวิต นั่นคือในพิธีกรรม โดยเฉพาะในการเทศน์สอน และอาจเข้าถึงได้ด้วย
ข้อเขียนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยเฉพาะของบรรดานักบุญ ไม่ว่าจะเป็นคำาสอนหรือประวัติชีวิตของพวกท่าน
ขณะที่ในสมณลิขิตประตูแห่งความเชื่อ (Porta Fidei, 2011)พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ได้ตรัส
ยืนยันว่า เนื้อหาความเชื่อในหนังสือคำาสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (Catechism of the Catholic Church)
ยังสามารถช่วยให้พบปะกับพระบุคคลของพระคริสตจ้าผู้ทรงเป็นพระวาจาของพระเจ้าได้ “ในแต่ละหน้า
เราพบว่าสิ่งที่(หนังสือคำาสอนพระศาสนจักรคาทอลิก)นำาเสนอนั้นไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นการเผชิญกับ
พระบุคคลผู้ทรงพระชนม์อยู่ในพระศาสนจักร” (ข้อ 11)
ดังนั้น การกลับใจภายใน เป็นการตอบสนองพระวาจา หรือเป็นการตอบรับความรักของพระเจ้า
โดยการรักตอบ ก็เกิดขึ้นจากการพบปะกับพระบุคคลของพระคริสตเจ้า นำาไปสู่การมีส่วนร่วมกับชีวิต
ของพระองค์ ในการนำาพระวาจาของพระองค์ไปปฏิบัติในแต่ละวัน ผ่านทางการดำาเนินชีวิตทางศีลศักดิ์สิทธิ์
โดยเฉพาะทางศีลมหาสนิท ความสัมพันธ์ของการมีส่วนร่วมกับชีวิตของพระคริสตเจ้าก็ทวียิ่งขึ้น ดังนั้น
ชุมชนคริสตชนที่ได้รับการฟื้นฟูความเชื่อซึ่งเกิดจากการกลับใจภายใน คือชุมชนที่แสดงออกในความรัก
แบบคริสตชน (charity) และมีความเป็นหนึ่งเดียวกัน
ในทำานองเดียวกันกับขอบเขตที่กว้างกว่าชุมชนคริสตชน คือสังคมไทย สังคมที่ดีหรือการทำาให้
เกิดความดีส่วนรวม ซึ่งเป็นสภาพความเป็นอยู่ทางสังคมทั้งหมดที่อำานวยให้สมาชิกแต่ละคนบรรลุถึง
ความปรารถนาได้อย่างสมบูรณ์และง่ายยิ่งขึ้น ก็เกิดจาก “การกลับใจของเพื่อนร่วมสังคมที่ได้รับการรื้อฟื้น
ให้ใหม่อยู่เสมอ” (CCC 1916) เพราะหากสภาพสังคมไทยเป็นสังคมที่ดีและมีสันติสุข ก็เป็นประโยชน์
ในการเอื้ออำานวยต่อการดำาเนินชีวิตคริสชน แต่เราต้องคำานึงถึงคำาเตือนของพระสันตะปาปา ยอห์น
ปอล ที่ 2 อยู่เสมอ ที่ทรงกล่าวถึงศักดิ์ศรีความเป็นบุคคลมนุษย์ (human person) ซึ่งข้ามพ้นระบบ
ทางสังคมทุกระบบ ดังนั้น แม้ในระบบที่เลวร้ายที่สุด ก็ยังสามารถมีนักบุญเกิดขึ้นได้ (ดู Centesimus
Annus ข้อ 38)
ต่อไปนี้เป็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในท่าแร่จากการดำาเนินงานบีอีซีตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา
งานศพ เป็นงานที่ชาวท่าแร่ถือเป็นงานสำาคัญ ที่ทุกครอบครัวควรให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทา
ใจครอบครัวผู้สูญเสียซึ่งกำาลังอยู่ในบรรยากาศของความโศกเศร้า สิ่งที่ช่วยกันจนเป็นประเพณีคือ ช่วยเงิน
ข้าวสาร พืชผัก การออกแรงช่วยจัดสถานที่ จัดอาหารเลี้ยงแขก การไปร่วมสวดภาวนา ร่วมมิสซาหน้าศพ
งานศพที่ท่าแร่ไม่มีการออกบัตรเชิญ เมื่อมีคนตายญาติไปแจ้งทางวัด วัดตีระฆัง และจะประกาศทาง
เครื่องขยายเสียงว่าผู้ตายเป็นใครอยู่ชุมชนไหน มิสซาหน้าศพเมื่อไร และมิสซาปลงศพเมื่อไร สิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากที่บีอีซีเข้ามาคือ มีคนไปร่วมภาวนาและร่วมมิสซาหน้าศพมากขึ้น ไม่ว่าผู้ตายจะเป็นใคร
จะยากดีมีจนอย่างไร ในเวลาสวดภาวนาหรือเวลามิสซาหน้าศพ จะไม่มีคนคุยกันหรือส่งเสียงรบกวนใดๆ
เป็นบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์โดยแท้ ในงานศพจะไม่มีการเล่นการพนัน และจะไม่มีการเสพของมึนเมา
ภาคที่ 2 วิถีชุมชนแห่งความเชื่อ 85

