Page 210 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่
P. 210
ไปวัด ไปเรียนค�าสอนเพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับศีลแก้บาป รับศีลมหาสนิทและศีลก�าลัง ผมรู้สึกตื้นเต้นมาก
ที่จะได้รับศีลมหาสนิทครั้งแรก มีการเตรียมตัวและฝึกซ้อมการรับศีลฯ สมัยก่อนต้องรับศีลฯด้วยปาก
�
เราเด็กๆ มีความเชื่อกันว่าถ้าเอามือจับศีลฯ นิ้วจะขาด อะไรทานองนั้น จึงตั้งใจที่สุดเมื่อรับศีลฯ
กลัวว่านิ้วจะแตะโดนศีลฯ เวลาอยู่ในวัด ผมกับน้องชอบนั่งใกล้พระแท่นเพราะจะได้สังเกตเห็นพระสงฆ์
สวดและท�าพิธีและฟังคุณพ่อสวดเป็นภาษาละตินและฟังเด็กช่วยมิสซาตอบเป็นภาษาละติน เมื่อก่อนคุณ
พ่อจะถวายมิสซาโดยหันหลังให้สัตบุรุษเช่น คุณพ่อจะหันมาหาสัตบุรุษและบอกว่า Do minus vobis cum
(ดอ มีนูส โวบีส กุม) ทุกคนก็จะตอบว่า Et cum spiritu tuo (แอ๊ต กุม สปิระตู ตูโอ) ซึ่งตรงกับภาษาไทย
ว่า พระเจ้า สถิตกับท่าน และเราตอบว่า และสถิตกับท่านด้วย ผมกับน้องตอนนั้นอยากเป็นเด็กช่วยมิสซา
�
�
มาก สิ่งสาคัญอย่างหนึ่งของสัตบุรุษเวลานั้นคือ ทุกคนจะต้องนาเสื่อไปด้วยเพราะไม่มีม้านั่งเหมือนทุกวัน
นี้ ใครลืมเอาไปก็จะขอนั่งกับเพื่อนๆ
หลังเลิกเรียนค�าสอนก็จะต้องรีบกลับบ้านทานข้าวไปโรงเรียนซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับวัด ถ้าวันไหน
ไปถึงโรงเรียนแต่เช้าพวกเราพร้อมกับเพื่อนๆ และเด็กคนอื่นๆ ก็จะไปวิ่งเล่น หรือเล่นซ่อนหาแถวๆ
บริเวณวัดและบ้านพักคุณพ่อเจ้าอาวาสวัด รวมทั้งช่วงหลังเลิกเรียนด้วย บางวันก็เข้าไปคุกเข่าสวดภาวนา
จะมีผู้เฒ่าผู้แก่มาเฝ้าศีลฯ และสวดภาวนาที่วัดเป็นประจ�า ผมจ�าได้ว่า วันหนึ่งมีผู้คนมาที่วัดมากมายใน
ช่วงหลังเลิกเรียน ผมกับน้องจึงรีบวิ่งไปดูว่าเขามาท�าอะไรกัน พอไปถึงผู้คนต่างก็แตกตื่นเบียดเสียดออกัน
เต็มวัด ต่างก็แหงนดูเหนือพระแท่นได้ยินเสียงเขาพูดกันว่า พระจิตเจ้าเสด็จลงมา ผมก็แหงนดูจนเมื่อยคอ
ก็เห็นเป็นแสงกระพริบระยิบระยับสุกใส ตามประสาเด็กก็คิดว่าเป็นพระจิตเจ้าเสด็จลงมาตามที่ผู้ใหญ่เขา
พูดกัน ผมก็เชื่อว่าผมได้เห็นพระเจ้าตอนนั้นจริงๆ เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดในวัยเด็ก บางครั้งวัน
เสาร์อาทิตย์ก็พากันมาที่วัด เด็กผู้ชายก็จะเล่นเป่ากบ ตีและดีดเม็ดมะขาม เด็กผู้หญิงก็จะเล่นตีจับ
เล่นกระโดดยางอย่างสนุกสนานก่อนกลับบ้าน
ตอนกลางคืนก่อนนอน คุณพ่อคุณแม่ก็จะพาสวดก่อนนอนทุกคืนเหมือนกับครอบครัวอื่นๆ
ผมจะได้ยินเสียงสวดภาวนาก่อนนอนจากบ้านใกล้เคียงเช่นกัน เป็นสิ่งที่น่าประทับใจมาก
�
นอกจากกิจวัตรประจาวันแล้ว ผมยังจาได้ว่าในรอบปี เด็กๆ รวมทั้งผมด้วยต่างก็ตั้งตารอคอยคือ
�
วันคริสต์มาส หรือในสมัยนั้นเขาเรียกว่าบุญนาตัล เป็นวันที่ผมและเด็กๆดีใจมาก เพราะจะได้แห่ดาว ได้
ดูละครเทวดา ได้จูบเท้าพระกุมารในถ้�า และได้ทานขนมที่ซิสเตอร์และครูสอนค�าสอนแจก ผมท�าดาวเป็น
ก็เนื่องจากที่คุณพ่อสอนให้ท�า และเมื่อผมและน้องชายได้เข้าบ้านเณร ได้ท�าดาวดวงใหญ่ประจ�าชั้นเรียน
เข้าประกวดได้รางวัลที่ 1 หลายครั้งทีเดียว ถึงเทศกาลวันปีใหม่ ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เด็กๆ ทุกคนรอคอย
เพราะวันนี้ เป็นวันที่ เด็กๆ จะไหว้และสวัสดีปีใหม่คุณพ่อคุณแม่ ญาติผู้ใหญ่และพ่อแม่ทูนหัว ท่านก็จะ
ให้ขนมและบางคนก็จะแจกเงิน เด็กๆ ก็จะอวดกันว่าตัวเองได้เงินในวันปีใหม่เท่าไร อีกวันหนึ่งที่ส�าคัญที่
ผมจาได้คือ วันฉลองวัดเพราะนอกจากจะได้ไปวัดแล้ว ยังได้ดูขบวนแห่ต้นเงินจากคุ้มต่างๆ เด็กๆ
�
สนุกสนานและหัวเราะ ขบวนแฟนซีที่ส่วนมากผู้ชายจะแต่งตัวแปลกๆ บ้างก็สวมหัวโขนและหน้ากากเป็น
รูปต่างๆ คุณพ่อคุณแม่ก็จะจูงลูกๆ มาดูกัน เด็กๆบางคนก็ร้องไห้เพราะกลัวหน้ากากผี และสิ่งที่ผมชอบ
208 ภาคผนวก

