Page 50 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่
P. 50

อยู่แล้ว หลังจากพระสงฆ์ทำาพิธีเสกไฟและเสกเทียนปัสกาบริเวณลานนอกวัดเสร็จแล้ว จะต่อด้วยพิธีแห่

            เทียนปัสกาจากนอกวัดเข้าสู่ภายในวัด ระหว่างการแห่นั้น สังฆานุกรหรือพระสงฆ์ จะชูเทียนปัสกาขึ้น
            3 ครั้ง ใน 3 จุด พลางขับร้องผู้เดียวในขณะที่ชูเทียนขึ้นว่า “พระคริสตเจ้า องค์ความสว่างของชาวเรา”

            ทุกคนตอบว่า  “ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า” หลังจากนั้นจึงมีการประกาศสมโภชปัสกาอย่างสง่า และเริ่ม
            พิธีกรรมสมโภชปัสกาต่อไป

                    ด้วยรูปแบบการแห่เทียนที่ประกอบอยู่ในพิธีกรรมตื่นเฝ้าปัสกาในค่ำาวันเสาร์ คุณพ่อหลุยส์จำาเนียร
            สันติสุขนิรันดร์  (ปัจจุบัน  คือพระอัครสังฆราชแห่งอัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง)  ในขณะนั้น

            เป็นเจ้าอาวาสอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่ องค์ที่ 10 (ค.ศ.1981-1982 /พ.ศ.2524-2525)
            ก็ได้ริเริ่มการแห่เทียนปัสกานอกโบสถ์เป็นประเพณีครั้งแรก และเป็นแห่งเดียวในอัครสังฆมณฑลและใน

            ประเทศไทยด้วย
                    เมื่อช่วงเวลาเริ่มต้นที่มีประเพณีแห่เทียนปัสกา (ปี 1982-1983) คณะกรรมการ และสมาชิก

            แต่ละคุ้มจะพากันนำาเทียนลงมารวมกันที่ศาลาอเนกประสงค์ สนามวัดทางทิศใต้ (บริเวณศาลามาร์ติโน
            ในปัจจุบัน) เมื่อถึงเวลา ก็พากันแห่โดยมีตัวแทนคนหนึ่งถือเทียนในมือตามด้วยสมาชิกในคุ้มของตน

            เดินเท้าแห่ทีละคุ้มต่อเนื่องกันไปรอบอาสนวิหาร พลางตีกลอง ร้องเพลง ปรบมือประกอบจังหวะ
            ด้วยความสนุกสนาน สามัคคีเป็นน้ำาหนึ่งใจเดียวกัน

                    รูปลักษณ์ของเทียนที่นำามาแห่ ขึ้นอยู่กับแต่ละคุ้มจะจัดหามาได้ มีทั้งเทียนสีขาว สีเหลือง
            เล็กใหญ่ สูงต่ำา แตกต่างกันไป แล้วนำามาใส่ไว้ในเชิงเทียน ประดับประดาด้วยดอกไม้ พู่ห้อย แบบซื่อๆ

            เรียบง่ายในช่วงแรกเริ่ม
                    เมื่อเดินแห่เสร็จสรรพแล้วก็พากันเคลื่อนขบวนแห่เข้าไปภายในอาสนวิหารนำาเทียนปัสกาของ

            แต่ละคุ้มไปตั้งเรียงกันไว้เป็นแถวหน้ากระดานบริเวณหน้าพระแท่น ส่วนบรรดาสมาชิกทุกคุ้มจะนั่งที่ม้านั่ง
            รอลุ้นผลคะแนนการตัดสินของคณะกรรมการ (ซึ่งปกติพระสงฆ์นักบวชเป็นผู้ให้คะแนน) การให้คะแนนใน

            ขณะนั้นเน้นที่การประดับเทียนเป็นหลัก รางวัลการประกวดนั้นทางวัดจะจัดให้แบบง่ายๆ เพื่อเป็น
            กำาลังใจ เทียนปัสกาที่ได้อันดับที่ 1 นั้นจะมอบให้อาสนวิหารนำาไปใช้ในพิธีกรรมในเทศกาลปัสกาของปีนั้น

            ส่วนลำาดับรองลงมา จะมอบให้บ้านเณร อาราม ด้วยวัตถุประสงค์อันเดียวกัน
                    รูปแบบที่พัฒนาต่อมา ในระหว่างปี ค.ศ.1984-1987 ได้เริ่มมีการนำาเทียนขึ้นตั้งบนรถยนต์

            บางคุ้มก็ตั้งบนรถสามล้อเครื่อง แล้วมีการประดับทั้งเทียนและรถเทียนแบบเรียบง่าย เป็นไปตามธรรมชาติ
            ส่วนเทียนก็ยังจัดหากันเองในแต่ละคุ้ม บางคุ้มใช้วิธีการหล่อเทียนเอาเอง บางคุ้มก็จัดซื้อหาตามร้าน

                    เมื่อขบวนแห่ออกจากคุ้มของตนเองก็จะเคลื่อนมารวมกันเตรียมความพร้อมที่สนามหน้าวัดทาง
            ทิศใต้ เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมจะเริ่มแห่ทีละขบวนต่อเนื่องกันไปรอบอาสนวิหาร และมาจอดรอที่ลาน

            หน้าบันไดขึ้นอาสนวิหารเพื่อรับรางวัล สินน้ำาใจซึ่งก็เป็นเพียงรางวัลปลอบใจเล็กๆน้อยๆ
                    และในช่วงเวลาต่อมา ปี ค.ศ.1988-2002 ได้มีการพัฒนาการแห่เทียนปัสกาต่อจากรูปแบบ

            ตอนต้นให้ดีขึ้น กล่าวคือ ได้ทำาการประดับ ตกแต่งเทียน และรถเทียนปัสกาให้ประณีตสวยงาม ด้วยดอกไม้



            48                                                         ภาคที่ 2  วิถีชุมชนแห่งความเชื่อ
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55