Page 63 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่
P. 63
นิรันดร พวกเขาจำาเป็นต้องได้รับการชำาระให้บริสุทธิ์เพื่อบรรลุถึงความศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่จะเข้ารับ
ความบรมสุขในสวรรค์ เราเรียกวิญญาณที่อยู่ในกระบวนการชำาระนี้ว่า “วิญญาณในไฟชำาระ” ซึ่งเป็นผู้ที่
ต้องการคำาภาวนาจากพวกเราที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ เราจึงภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำาระเพื่อพวกเขาจะ
ได้ไปอยู่กับพระเจ้าในสวรรค์โดยเร็ววัน (ดู คำาสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 1021-22, 1030 และ 1032)
เราคาทอลิกมีความเชื่อ เรื่อง “ความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวของผู้ศักดิ์สิทธิ์” ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนจาก
คำาว่า “สหพันธ์นักบุญ” หมายถึงความสนิทสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวของสัตบุรุษทุกคนบนโลกนี้ วิญญาณ
ในไฟชำาระ และบรรดานักบุญทั้งหลายในสวรรค์ ทุกคนรวมกันเข้าเป็นพระศาสนจักรเดียว และเราเชื่อว่า
ในความสนิทสัมพันธ์อันนี้ความรักอันเปี่ยมด้วยพระกรุณาของพระเจ้า พระองค์สดับฟังคำาภาวนา
ของนักบุญทั้งหลายที่ในขณะนี้กำาลังเสนอวิงวอนเพื่อเราและเพื่อวิญญาณในไฟชำาระ เช่นเดียวกันก็
สดับฟังคำาภาวนาของเราเสมอที่ภาวนาเพื่อคนอื่นๆ บนโลกนี้และเพื่อวิญญาณในไฟชำาระ
ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มแล้วที่พระศาสนจักรเชื้อเชิญคริสตชนให้ภาวนาอุทิศแก่วิญญาณในไฟชำาระ
โดยเฉพาะในพิธีมิสซา รวมถึงการทำาทาน การรับพระคุณการุณย์ และการทำากิจใช้โทษบาปด้วย ดังที่มี
เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “การภาวนาเพื่อผู้ตาย วอนขอพระเจ้าให้ทรงลบล้างบาปให้หมดสิ้น เป็นความคิด
ที่ดีและศักดิ์สิทธิ์”(2มคบ 12:45) พระศาสนจักรยังสอนอีกว่า คำาภาวนาของเราสำาหรับผู้ตาย มิเพียงแต่จะ
ช่วยพวกเขาได้เท่านั้น แต่ยังทำาให้การภาวนาวิงวอนของพวกเขาแทนเรามีประสิทธิผลอีกด้วย (ดู คำาสอน
พระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 958 และ 1032)
วันภาวนาอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ เป็นโอกาสที่ผู้มีชีวิตอยู่ จะได้รำาลึกนึกถึง ปู่ย่า ตายาย พี่น้องลูกหลาน
ที่ล่วงลับ ผู้ที่ทำางานในต่างจังหวัด ก็จะเดินทางกลับมา ทำาบุญอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
อาจเคยอยู่ด้วยกัน รักกัน เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีความผูกพันด้วยสายเลือดเป็นพ่อแม่พี่น้อง หรือมี
ความสนิทสนมคุ้นเคย ดังนั้นเมื่อคนหนึ่งต้องตายจากไป คนที่มีชีวิตก็ยังคิดถึงกันอยู่ และคิดว่าวิญญาณ
ผู้ล่วงลับยังต้องการคำาภาวนา โดยเฉพาะมิสซา หรือการทำากิจเมตตา ที่ผู้มีชีวิตอยู่ในโลกจะอุทิศให้
เวลาสองสัปดาห์ก่อนวันงาน ชาวท่าแร่ก็เริ่มไปทำาความสะอาดหลุมศพ ปัดกวาดเช็ดถู และทาสี
ให้สะอาดสวยงาม ส่วนทางวัดก็จะจัดเตรียมไฟฟ้า เครื่องขยายเสียง จัดเตรียมสถานที่สำาหรับพีธีกรรม
และจ้างคนเก็บกวาด ถากถางต้นหญ้าต้นไม้ในบริเวณ “สุสานศักดิ์สิทธิ์” (เป็นคำาที่ใช้เรียกอย่างเป็น
ทางการที่เพิ่งนำามาใช้ในท่าแร่ได้ราวสิบปีมานี้เอง แต่คำาที่ชาวท่าแร่ใช้เรียกกันจนติดปากจริงๆ ก็คือ
“ป่าศักดิ์สิทธิ์”) โดยเฉพาะในวันอาทิตย์ก่อนวันงานจะมีผู้คนลงไปทำาความสะอาดกันมากตั้งแต่เช้า
ถึงบ่าย บางครอบครัวก็เรียกลูกหลานลงไปช่วย ทำางานกันเป็นกลุ่มเป็นหย่อม จึงมีคนชุกชุมเหมือน
วันทำาบุญกันเลย มีพ่อค้าแม่ค้านำาสิ่งขบเคี้ยว และเครื่องดื่มลงไปขายให้บริการตลอดวันเช่นกัน มีเสียง
หัวเราะ เสียงทักทายปราศรัย เสียงร้องเรียกเจี้ยวจ้าวอึงคะนึงไปทั่วบริเวณ การเตรียมจิตเตรียมใจก่อน
การทำาบุญก็เป็นการสร้างบรรยากาศความรัก ความร่วมมือร่วมใจ และทำาให้เกิดความสุขใจได้มากมาย
อย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อก่อนนี้ ชาวท่าแร่นิยมทำาหลุมฝังศพด้วยการก่ออิฐฉาบปูนซีเมนต์แล้วทาสี ชาวท่าแร่
ภาคที่ 2 วิถีชุมชนแห่งความเชื่อ 61
