Page 68 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่
P. 68
ประเพณีงานศพ
โดย นายนิทัศน์ เสมอพิทักษ์
ประเพณีงานศพในท่าแร่มีความแตกต่างจากการทำาพิธีงานศพของพี่น้องชาวพุทธที่อยู่ตามหมู่บ้าน
ใกล้เคียง เพราะพิธีงานศพของคริสตชนชาวท่าแร่ เป็นการนำาความเชื่อของคริสตชนปรับเข้าสู่วัฒนธรรม
ดั้งเดิมที่มีมาก่อน และในช่วงเวลา ค.ศ.1957-2012 (พ.ศ.2500-2555) ประเพณีและพิธีงานศพในท่าแร่ได้
มีความเปลี่ยนแปลงและมีพัฒนาการที่น่าสนใจเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น การปฏิบัติเกี่ยวกับ สถานที่ตั้งศพ
เพื่อภาวนาอุทิศให้ผู้ล่วงลับ หรือที่เรียกว่า ภาวนาหน้าศพ เวลาในการตั้งศพเพื่อภาวนาหน้าศพ การนำา
ศพลงไปประกอบพิธีมิสซาที่วัด การนำาศพไปฝังหรือบรรจุที่สุสาน การภาวนาและการทำาบุญอุทิศแก่
ผู้ล่วงลับหลังจากการฝังศพ จะเล่าให้เข้าใจพอสังเขปเป็นเรื่องๆดังต่อไปนี้
เมื่อมีคนเจ็บป่วยในหมู่บ้าน จะมีญาติพี่น้องหรือคนที่รู้จักไปเยี่ยมถามอาการ ให้กำาลังใจหรือ
แนะนำาว่าควรจะรักษาอย่างไร ถ้าหากอาการหนักน่าวิตก พอตกเย็นพี่น้องจะมาร่วมนอนเฝ้าคนป่วย
เพื่อให้การปรึกษาหารือและให้ความช่วยเหลือเท่าที่สามารถจะทำาได้ นี่เป็นความเป็นพี่เป็นน้องที่พอจะ
ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันแต่ก็ไม่เด่นชัดเหมือนในอดีต เมื่อเห็นว่าอาการไม่ดีขึ้นก็จะเชิญพระสงฆ์มาโปรด
ศีลอภัยบาป รับศีลมหาสนิทและรับศีลเจิมคนไข้ แล้วบอกพี่น้องบ้านใกล้เรือนเคียงมาภาวนาแก่ผู้ป่วย
สามคืน ถ้าคนป่วยยังมีชีวิตอยู่ก็อาจจะมีการภาวนาให้แก่ผู้ป่วยหลายครั้ง
เมื่อผู้ป่วยถึงแก่กรรม ก็จะตั้งศพไว้ในบ้าน 2-3 คืน แล้วแต่ความประสงค์ของเจ้าภาพ เพื่อญาติ
พี่น้อง มิตรสหาย และคนในหมู่บ้าน จะได้มาภาวนาให้ผู้ตาย หรืออาจมีมิสซาหน้าศพอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ
เมื่อ 30-40 ปีก่อนนั้น ส่วนมากจะตั้งศพไว้ไม่เกิน 2 คืน เพราะไม่มียาฉีดศพหรือไม่มีโลงเย็นเหมือน
เดี๋ยวนี้ ดังนั้นถ้าเก็บศพไว้นาน ศพอาจส่งกลิ่นจนบางครั้งกลายเป็นเรื่องนินทากัน และในสมัยก่อนนั้น
ไม่มีการประกอบพิธีมิสซาหน้าศพ แต่วันฝังศพพระสงฆ์จะไปรับศพถึงบ้าน แล้วพากันแห่ศพลงมา
เพื่อทำาพิธีมิสซาที่วัด หลังมิสซาพระสงฆ์ก็จะร่วมแห่ศพไปป่าศักดิ์สิทธิ์เพื่อประกอบพิธีปลงศพที่นั่น
ส่วนศพผู้ที่ไม่มาวัดและขาดการแก้บาปรับศีลในเทศกาลปัสกา พระสงฆ์จะไม่ไปรับศพ และจะไม่มีมิสซา
ในวัด แต่จะทำาพิธีเสกศพให้นอกวัดแล้วนำาไปฝังเลย
ประมาณ ค.ศ.1987 (2530) เป็นต้นมา ได้เริ่มมีการนำาศพลงมาตั้งเพื่อภาวนาหน้าศพ
ที่ศาลาประชาคมของวัด (ศาลามาร์ติโน ปัจจุบันศาลาพักศพของวัด คือ ศาลาปีติมหาการุญ สร้างในปี
2000) ซึ่งมีความสะดวกหลายประการ ประการแรก ศาลาประชาคมอยู่กึ่งกลางชุมชน ผู้คนมาร่วมภาวนา
ได้ง่าย คณะอาราม คณะเณร ก็มาร่วมภาวนาได้สะดวก ประการที่สอง มีการภาวนาหน้าศพ เวลาประมาณ
19.30 น. หลังจากภาวนาเสร็จ จะมีการเลี้ยงอาหารว่าง เมื่อชาวบ้านกลับไป ญาติพี่น้องของผู้ตายก็มีเวลา
66 ภาคที่ 2 วิถีชุมชนแห่งความเชื่อ

