Page 70 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่
P. 70

เหมือนหลังคาบ้าน ชาวบ้านเรียกว่า “มูม” โครงทำาด้วยไม้ไผ่ ติดและพันด้วยกระดาษสี ตัดกระดาษสีเป็น

            พวงแขวนตามมุมและขอบโครงครอบโลง ในสมัยนั้นไม่นิยมใช้ดอกไม้ประดับโลงศพ ถ้าหากไม่ใช้วิธีหาม
            ศพก็จะใช้รถเข็นโลงศพบรรทุกศพลงมาวัด รถเข็นโลงศพมีลักษณะคล้ายเกวียน มีสองล้อ มีหลังคาที่ประดับ

            ด้วยลวดลายไม้ฉลุ ทาสีดำา เขียนลายด้วยสีขาว ชาวท่าแร่เรียกว่า “เกียนลาย” มีโรงเก็บอยู่ข้างวัด
            ด้านตะวันตก เด็กๆ จะกลัวมาก ใครขาดเรียนคำาสอนหรือขาดวัดวันอาทิตย์ คุณพ่อจะทำาโทษโดยให้ไป

            คุกเข่าพนมมือที่ข้างเกวียนลาย เด็กจะกลัวไม่กล้าขาดเรียนคำาสอนหรือขาดวัดวันอาทิตย์อีก เกวียนลาย
            เลิกใช้มาหลายสิบปีแล้ว ส่วนการใช้คานหามนานๆ ทีก็จะเห็นใช้สักครั้งหนึ่ง ส่วนมากจะใช้รถเข็นที่ประดับ

            งดงาม หรือรถยนต์ที่จัดที่วางโลงศพไว้ที่กระบะท้ายรถ แล้วประดับด้วยดอกไม้งดงาม
                    หลุมฝังศพเมื่อก่อนขุดลึก 1.50-2.00 เมตร เพื่อไม่ให้มีกลิ่นออกมา ส่วนกว้างยาวพอที่จะฝัง

                                                                                      ิ
                                                                                    ู
                                                                       ื
                                                                                          ั
                                                    ็
                                                  ้
                                                                                             ุ
                                                                       ่
                                 ่
                                   ิ
                                         ู
                            ี
                                                                   ็
                        ้
                           ่
                                               ั
                                            ่
            โลงศพลงไปได ไมมการกออฐฉาบปนเมอฝงแลวกจะปกไมกางเขนเปนเครองหมาย และพนดนหลงหลมศพ
                                                        ั
                                                           ้
                                            ื
            ให้สูงขึ้น คนมีฐานะจะทำาหลังคาครอบหลุมศพ บางหลุมอาจจะทำาฝาผนังทั้งสี่ด้าน  ตกแต่งลวดลายด้วย
            ไม้ฉลุ และทาสีสลับลวดลายสวยงามมาก ในปัจจุบันจะขุดหลุมลึกเพียง 1.00 เมตร ยาว 2.00 เมตร กว้าง
            ประมาณ 0.80 เมตร ผนังก่ออิฐฉาบปูน หรือเทคอนกรีต เมื่อบรรจุโลงศพลงไปแล้วจะปิดด้วยแผ่นคอนกรีต
            โบกปูนทับ แล้วก่อขึ้นมาเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมตามลักษณะของหลุม ฉาบปูนแล้วทาสี หรือติดกระเบื้อง
            หลังหลุมศพมีความสูงประมาณ 1.00 เมตร หัวหลุมข้างหนึ่งก่อขึ้นเป็นกางเขนสูงประมาณ 0.50-0.80
            เมตร ใต้กางเขนจารึก ศาสนนาม ชื่อ สกุล วันเดือนปีเกิด วันเดือนปีตาย และอายุ ของผู้ตาย ตั้งแต่ปี
            ค.ศ.2005 สุสานศักดิ์สิทธิ์เหลือเนื้อที่ไม่มาก จึงจำาเป็นต้องประหยัดเนื้อที่ ทางวัดจึงแนะนำาให้ฝังศพ
            ซ้อนกัน ในหลุมหนึ่งฝังได้สองศพ เพื่ออำานวยความสะดวกแก่ญาติพี่น้องผู้ตาย ทางวัดยังได้สร้าง
            โรงบรรจุศพ (คูหาบรรจุศพ) หลังหนึ่ง ก่อสร้างด้วยคอนกรีต สามารถบรรจุได้ 88 ศพ
                    เมื่อนำาศพลงมาที่วัด ก็จะมีการรับศพแล้วนำาเข้าไปตั้งในวัด พระสงฆ์ก็จะประกอบพิธีมิสซา
            หลังมิสซา บางศพก็จะมีผู้แทนญาติผู้ตายขึ้นอ่านประวัติย่อของผู้ตาย กล่าวคำาไว้อาลัย และกล่าวขอบคุณ
            แขกและผู้มาร่วมพิธี หลังจากนั้นก็นำาศพไปยังสุสานศักดิ์สิทธิ์เพื่อทำาพิธีฝัง เสร็จพิธีก็เชิญแขกไปร่วม
            รับประทานอาหารที่บ้านเจ้าภาพหรือที่ศาลาพักศพ และเชิญร่วมภาวนาอุทิศแก่ผู้ตายอีกสามคืน เรียกว่า
            “งันเฮือนดี๋”
                    การทำาบุญอุทิศแก่ผู้ตายหลังการฝังศพนั้น  แล้วแต่ความประสงค์ของญาติว่าจะทำาบุญ

            เมื่อครบรอบ 7 วัน หรือครบรอบ 100 วัน หรือครบรอบ 1 ปี ซึ่งเวลาที่มากไปกว่านี้จะขึ้นอยู่กับ
            ความพร้อมของญาติหรือเจ้าภาพที่จะทำาบุญให้กับญาติพี่น้องที่ล่วงลับ ในการทำาบุญ ญาติจะไปขอมิสซา

            กับคุณพ่อเจ้าวัด ในตอนเย็นก่อนวันที่มีมิสซา ก็จะเชิญแขก ญาติพี่น้อง มาร่วมภาวนาที่บ้านหรือที่ศาลา
            หลังภาวนาก็จะเลี้ยงอาหารว่าง วันรุ่งขึ้นก็ร่วมมิสซาที่วัด ออกจากวัดไปภาวนาที่หลุมศพที่สุสาน

            หลังจากนั้นก็เชิญไปร่วมรับประทานอาหารที่บ้านเจ้าภาพ
                    ประเพณีงานศพ มีความสำาคัญทั้งในด้านการสืบทอดความเชื่อและความหวังในชีวิตนิรันดร

            ขณะเดียวกันพิธีปลงศพของคริสตชนไม่เพียงแต่มอบผู้ล่วงลับไว้ในพระเมตตาของพระเจ้า เสนอวิงวอน



            68                                                         ภาคที่ 2  วิถีชุมชนแห่งความเชื่อ
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75