Page 98 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่
P. 98
กิจกรรมของบีอีซีที่มุ่งแสดงออกถึงความรัก ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ก็เป็นผลทำาให้ทุกคนที่ได้ร่วม
มีประสบการณ์หรือได้สัมผัส ได้พบกับความรักของพระเจ้า โดยเฉพาะในบุคคลที่เจริญชีวิตด้วย
พระวาจา (ร่วมชีวิตกับพระคริสตเจ้า) นำาไปสู่การกลับใจและการปรับเปลี่ยนตนเองในแต่ละวันและในการ
ร่วมทำากิจกรรมกับเพื่อนสมาชิก นำาตนให้ละม้ายคล้ายกับพระคริสตเจ้ามากยิ่งขึ้น จนบรรลุถึงความสำาเร็จ
สมบูรณ์ในการเป็นมรณสักขี แม้ไม่ใช่มรณสักขีในรูปแบบของหลั่งโลหิตเพื่อยืนยันความเชื่อและความรัก
ที่มีต่อองค์พระคริสตเจ้าโดยไม่ยอมปฏิเสธพระองค์ แต่ด้วยการเจริญชีวิตแห่งความจริงด้านศีลธรรม
(moral truth) ในการซื่อสัตย์ต่อบทบัญญัติของพระเจ้า ซึ่งความเชื่อจึงกลายเป็นการประกาศ ความเชื่อ
กลายเป็นพยาน (ดู พระสมณสาส์นความรุ่งโรจน์แห่งความจริง (Veritatis Splendor) ข้อ 92)
เราอาจสรุปบทบาทของบีอีซีในชีวิตคริสตชนได้ดังนี้ ในการดำาเนินชีวิตสู่ความศักดิ์สิทธิ์ของ
คริสตชน ก็คือการพัฒนาพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาป ศีลศักดิ์สิทธิ์ที่นำาเราเข้ามีส่วนร่วมในชีวิตของ
พระคริสตเจ้า และนำาเราเข้าเป็นสมาชิกแห่งพระกายของพระองค์ คือพระศาสนจักร ในการพัฒนานี้ก็
เป็นการแปรสภาพชีวิตให้คล้ายคลึงกับพระคริสตเจ้า (เทียบ ฟป 2:5 และดู CCC 1694-95) ก็คือการรับ
พระวาจา “หมายความว่ายอมให้พระวาจาปรับปรุงตนชนิดที่ว่า โดยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า เขาจะ
มีสภาพคล้ายกับพระคริสตเจ้า องค์พระบุตร เพียงพระองค์เดียวจากพระบิดา (ยน 1:14)” (VD 51) เกิด
จากการพบปะกับพระคริสตเจ้าในพระศาสนจักร ซึ่งเกิดขึ้นได้เพราะ “พระเจ้ามิได้หายหน้าไปไหนเลยตลอด
ช่วงเวลาต่างๆ ของประวัติศาสตร์ พระองค์ทรงพบเราในรูปแบบใหม่ๆ เสมอ ในบรรดามนุษย์ชายหญิง
ผู้ซึ่งดำาเนินชีวิตสะท้อนให้เห็นถึงการประทับอยู่ของพระองค์บนโลกนี้ ในศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในศีลมหาสนิท เรามีประสบการณ์ความรักของพระเจ้า ในจารีตพิธีกรรม ในการสวดภาวนา
และในชุมชนผู้มีความเชื่อของพระศาสนจักร เรารับรู้ถึงการประทับอยู่ของพระองค์ตลอดจนสำานึกถึง
การประทับอยู่ของพระองค์ในชีวิตประจำาวันของพวกเรา พระองค์ทรงรักเราก่อน และพระองค์ก็ยังทรงรัก
เราต่อไป” (DCE 16) ความสัมพันธ์ระหว่างพระคริสตเจ้า พระวจนาตถ์ของพระบิดา กับพระศาสนจักร
จึงไม่ได้เป็นเรื่องในอดีต แต่เป็นเรื่องความสัมพันธ์ชีวิตที่ผู้มีความเชื่อแต่ละคนได้รับเรียกให้เข้ามา
มีความสัมพันธ์ด้วยเป็นการส่วนตัว “พระวจนาตถ์ประทับอยู่ในหมู่พวกเรา ‘ดูซิ เราอยู่กับท่านทุกวันตลอด
ไปตราบจนสิ้นพิภพ’(มธ 28:20) ดังที่พระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 เคยตรัสไว้ว่า ‘ความสำาคัญของ
พระคริสตเจ้าสำาหรับทุกสมัยปรากฏให้เห็นในพระกายของพระองค์ คือในพระศาสนจักร’” (DCE 51)
พระคริสตเจ้าประทับอยู่และปรากฏแก่เราในพระกายของพระองค์ คือในพระศาสนจักร ทุกวันนี้ ที่นี่ และ
ในขณะนี้พระเยซูเจ้ายังตรัสกับเราแต่ละคนในพระวาจาที่ได้รับการประกาศและรับฟัง รวมทั้งในศีลศักดิ์สิทธิ์
ด้วย ดังนั้น พระศาสนจักรจึงเป็นบริบทที่ทำาให้เรามีประสบการณ์กับพระเจ้า (เทียบ DCE 51) พระศาสนจักร
เป็นแหล่งแห่งประสบการณ์ใหม่ๆ ส่วนตัว ในพระศาสนจักร คริสตชนมีประสบการณ์กับพระเจ้าใน
องค์พระคริสตเจ้า รู้จักความรักของพระบิดาในพระคริสตเจ้า การพบปะที่มีการตอบสนองหรือตอบรับ
พระวาจานั่นก็คือความเชื่อ และโดยความรักก็ผลักดันเราเปิดตนเองไปสู่ผู้อื่น ในท่าทีของความรักที่มีต่อ
เพื่อนพี่น้อง “การได้พบกับพระเจ้าในองค์พระคริสตเจ้าทำาให้ความรักของพวกเขาตื่นตัวขึ้นพร้อมที่จะ
96 ภาคที่ 2 วิถีชุมชนแห่งความเชื่อ

