Page 97 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่
P. 97

จึงจะไม่นำาไปสู่การตัดเอาธรรมล้ำาลึกความเชื่ออื่นๆออกไป ความรักของพระบิดาเจ้าที่ถูกเปิดเผยใน

            พระบุคคลของพระคริสตเจ้านั้น เราเข้าถึงได้หรือสัมผัสได้ก็โดยการเชื่อในพระบุคคลของพระองค์
            เพราะฉะนั้น จากธรรมล้ำาลึกต่างๆ ที่หลั่งไหลมาจากพระบุคคลของพระเยซูเจ้า ซึ่งคริสตชนมีประสบการณ์

            ในความเชื่อนี้ ก็จะนำาไปสู่การเข้าใจความรักของพระเจ้าได้อย่างถูกต้อง “เพื่อเราจะสามารถมีความเข้าใจ
                                              ่
                                          ้
                                               ื
                                                            ้
                                                      ั
                                        ู
                  ู
               ่
                    ้
                          ำ
                        ึ
                                                                                     ี
                                                                                     ่
                                                                                       ี
                                                                                                ้
                                                                                            ิ
                                                                               ื
                                                                        ู
                                                                    ั
                                                                        ่
                                                                               ้
                                                                             ึ
            อยางถกตองถงคาสอนของพระเยซเจาในเรองความรก เราตองตระหนกอยเสมอถงพนฐานทมพระครสตเจา
            และศีลศักดิ์สิทธิ์ การที่พระองค์ทรงทำาให้ธรรมบัญญัติและประกาศกสมัยก่อน ข้ามไปสู่การสั่งให้รักพระเจ้า
            และเพื่อนมนุษย์ อีกทั้งการที่พระองค์ทรงกำาชับให้เจริญชีวิตในความเชื่อเป็นศูนย์กลางนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่อง
            ทางจริยธรรมเท่านั้น กล่าวคือ เป็นอะไรที่เกิดขึ้นต่างหาก หรือเพียงอยู่เคียงข้างไปกับความเชื่อใน
            พระคริสตเจ้าและดำาเนินชีวิตในศีลศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง ความเชื่อ การนมัสการ และ ethos ล้วนสานทอ
            เข้าเป็นผ้าผืนเดียวกันซึ่งก่อให้เกิดการได้สัมผัสกับ ความรัก (agape)ของพระเจ้า” (DCE 14)
                    ในปี 2012-2013 นี้ พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงประกาศให้เป็นปีแห่งความเชื่อ เพื่อให้
            คริสตชนได้ตระหนักถึงความสำาคัญของความเชื่อและข้อคำาสอนของพระศาสนจักรที่มีต่อชีวิตคริสตชน
            เช่นเดียวกันใน สารมหาพรต ของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 สำาหรับปีนี้ ก็กล่าวถึงความสำาคัญของ
            ความเชื่อ และความสัมพันธ์ที่มาก่อนของความเชื่อต่อความรัก แทบจะเป็นการย้ำาเรื่องเดียวกันกับที่พบ
            ในพระสมณสาส์นเรื่องพระเจ้าทรงเป็นความรัก (DCE) ทรงเตือนถึงอันตรายของการลดทอนความรักเป็น
            แต่เมตตากิจ และย้ำาว่ากิจการแห่งความรักที่แท้จริงคือการนำาผู้คนไปสู่ความเชื่อ จากการประกาศข่าวดี
            และจากนี้เองที่ผู้คนจึงจะสามารถดำาเนินชีวิตในความรักได้ “ความสัมพันธ์กับพระเจ้าต้องมาก่อนเสมอ
            และการแบ่งปันสิ่งของวัตถุในจิตตารมณ์พระวารสาร จะต้องมีรากฐานในความเชื่อ ความจริงในบางครั้ง
            บางคราวเรามักลดค่าของคำา “ความรัก” ให้เป็นเพียงความเอื้ออาทร หรือเป็นความช่วยเหลือตามครรลอง
            มนุษยธรรม แต่มีความสำาคัญที่จะต้องระลึกว่าผลงานที่ยิ่งใหญ่สุดของความรักก็คือการประกาศข่าวดี
            ซึ่งเป็น “พันธกิจแห่งพระวาจา” ไม่มีกิจกรรมใดจะเป็นคุณมากไปกว่านี้” (ข้อ 3)

                     ั
                                                           ั
                       ้
                                                                     ั
                                                                                                ้
                                                                                            ิ
                                                                                     ั
                       ั
                                  ู
                                             ั
                                    ์
                    ดงนน ความสมบรณของความรก เรมจากการกลบใจภายในอนมาจากการพบปะกบพระครสตเจา
                                                 ิ
                                                 ่
            และโดยการร่วมมือกับความช่วยเหลือของพระหรรษทาน ในการพบปะกับพระองค์ในแต่ละวันนำาไปสู่
            ความก้าวหน้าฝ่ายจิตที่มีส่วนร่วมกับธรรมล้ำาลึกของพระคริสตเจ้าโดยทางศีลศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะในศีล
            มหาสนิท จึงมุ่งสู่ความรักที่ครบครันในการมอบชีวิตของตน (ดู CCC 1883 และ 2014) ปรากฏชัดเจนใน
            การสละชีวิตของตนเพื่อยืนยันความเชื่อ ในรูปแบบของการเป็นมรณสักขี ในฐานะเครื่องพิสูจน์ความรัก
            ขั้นสูงสุด (ดู LG 42) เจริญรอยตามพระฉบับขององค์พระเยซูเจ้า ที่ทรงมอบชีวิตของพระองค์เองเพื่อเรา
            มนุษย์จะได้รอดพ้น โดยการตายบนไม้กางเขน อันเป็นกิจการแห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ ที่ได้รับ
            การเฉลิมฉลองและรื้อฟื้นให้เป็นปัจจุบันในศีลมหาสนิท ศีลมหาสนิทจึงเป็นปัสกาของพระเยซูเจ้า ดังนั้น
            ความเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้าแบบศีลมหาสนิทพบความสำาเร็จสมบูรณ์ในการเป็นมรณสักขี
            กล่าวคือบรรดามรณสักขีได้มีส่วนร่วมในปัสกาของพระเยซูคริสตเจ้าอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจึงเป็นแหล่ง

            แห่งความเชื่อ เป็นพยานความจริง (แห่งความเชื่อ) ที่เชื่อถือได้



            ภาคที่ 2  วิถีชุมชนแห่งความเชื่อ                                                   95
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102