Page 94 - หนังสืออนุสรณ์ 125 ปี ท่าแร่
P. 94

มีส่วนรับผิดชอบในการพัฒนาและรักษาพระหรรษทานที่ได้รับในศีลล้างบาป” การเรียกร้องนี้แสดงออกชัด

            จากการกำาหนดกฎเกณฑ์เรื่องพ่อแม่ทูนหัว โดยยืนยันด้วยว่า “หน้าที่ของเขาคือหน้าที่ของพระศาสนจักร
            ที่แท้จริง” (CCC 1255)

                    บีอีซีเกิดขึ้นในพระศาสนจักร จึงสามารถมองกิจกรรมนี้สัมพันธ์กับบทบาทความเป็นมารดา
            ของพระศาสนจักรที่ฆราวาสทุกคนมีส่วนร่วมตามบทบาทของตน ดังจะเห็นว่า ในความก้าวหน้าฝ่ายจิต

            ของคริสตชนก็ดี ในการเล่าแบ่งปันประสบการณ์จากการดำาเนินชีวิตตามพระวาจาก็ดี การประกอบ
            เมตตากิจของสมาชิกก็ดี และอื่นๆทั้งหลาย ที่สุดแม้แต่ในตัวขบวนการกิจกรรมบีอีซีเองที่พวกเขา

            เข้าร่วมกลุ่ม ล้วนแต่มีส่วนช่วยค้ำาจุนความเชื่อของกันและกัน ทั้งจากสิ่งที่แสดงออกภายนอก จากคำาภาวนา
            และจากการบำาเพ็ญตนพลีกรรมใช้โทษบาปของสมาชิกในกลุ่ม “ข้าพเจ้าไม่สามารถจะเชื่อได้โดยไม่ได้รับ

            การค้ำาจุนจากความเชื่อของผู้อื่น และด้วยความเชื่อของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าก็มีส่วนในการค้ำาจุนความเชื่อ
            ของผู้อื่นนั้นด้วย” (CCC 166)

                    ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า บีอีซี ซึ่งโดยตัวขบวนการ มีการดำาเนินการเป็นหมู่คณะ ทำากิจกรรมร่วมกัน
            และประกอบงานเมตตากิจด้วยกัน จึงแสดงออกถึงความรักความเป็นหนึ่งเดียวกัน ประจักษ์พยาน

            ด้วยชีวิตนี้เองที่มีส่วนร่วมทั้งในการแพร่ธรรมและการประกาศพระวรสารใหม่ของพระศาสนจักร อย่างไร
            ก็ตาม การแสดงออกในความรักความเป็นหนึ่งเดียวกันนี้จะนำาไปสู่การแพร่ธรรม หรือการประกาศ

            พระวรสารใหม่จะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริงนั้น เพียงในวิถีทางที่สามารถอธิบายได้ในความเป็นสหพันธ์นักบุญ
            หรือความเป็นหนึ่งเดียวของผู้ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น คือในมิติอันเป็นการรวมตัวกันในสองด้านซึ่งแยกจากกัน

            ไม่ได้ คือคริสตชนแต่ละคนรวมตัวเข้ากับพระคริสตเจ้า และบรรดาคริสตชนทั้งหลายรวมตัวกันเป็น
            หนึ่งเดียวระหว่างกันและกันเอง (ดู พระสมณสาส์นเรื่องพระกระแสเรียกและภารกิจของคริสตชนฆราวาส

            ในพระศาสนจักรและในโลก (Christifideles Laici=CL) ข้อ 19) กล่าวคือความรักที่ผลักดันให้คริสตชน
            แสดงตนเป็นพยานต่อโลกในความรักของพระบิดาเจ้าจนมีอำานาจชักจูงมนุษย์ให้มาสู่ความเชื่อและมาหา

            พระเจ้านั้น เป็นความรักของพระจิตเจ้า ซึ่งหลั่งมายังพวกเขา เพื่อทำาให้ความรักของพวกเขาครบครัน
            ในความรักของพระคริสตเจ้า (ดู DCE 19 และ CCC 2044) ก็เป็นตามความจริงที่ว่า “พระศาสนจักร

            ในพระคริสตเจ้า เรียกได้ว่าเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ คือเป็นทั้งเครื่องหมายและเครื่องมือของความสนิทสัมพันธ์
            เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า และของความเป็นหนึ่งเดียวกันของมนุษยชาติทั้งมวล” (LG 1) เพราะฉะนั้น

            “สภาพจริงของพระศาสนจักรในฐานะความสัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวของผู้ศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นศูนย์กลางและ
            ศูนย์รวมของธรรมล้ำาลึก หรือแผนการช่วยมนุษยชาติให้รอดพ้นของพระเจ้า ด้วยเหตุนี้เราจะเข้าใจสหพันธ์

            ของพระศาสนจักรไม่ได้ ถ้าเราเห็นเป็นเพียงความจริงในด้านสังคมและด้านจิตวิทยาเท่านั้น” (CL 19)
            ยังให้หมายความว่า กิจกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นในพระศาสนจักร ต้องมีจุดหมายอยู่ที่พระอาณาจักรของ

            พระเจ้าเท่านั้น ซึ่งจะสำาเร็จไปโดยองค์พระผู้เป็นเจ้าในอวสานกาล (ดู LG 9)
                    ดังนั้น บีอีซีในฐานะเป็นกิจกรรมภายในพระศาสนจักร จึงมีส่วนช่วยให้คริสตชนได้พบปะกับ

            พระคริสตเจ้า ซึ่งนำาไปสู่การกลับใจ ผลภายนอกอันเนื่องจากการกลับใจภายในนั้นไม่สามารถนำามาเป็น



            92                                                         ภาคที่ 2  วิถีชุมชนแห่งความเชื่อ
   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99